คนหางานต้องรู้ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงหางาน

การหางานนั้นดูจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่พ่วงมากับความท้าทาย เพราะถึงแม้ว่าจะมีเคล็ดลับมากมายที่ช่วยนำทางถึงสิ่งที่คุณต้องทำในช่วงระหว่างการหางานก็ตาม แต่หลายคนมักจะลืมไปว่า เหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ นั่นหมายความว่าการคำนึงถึงสิ่งที่ไม่ควรทำก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งในบทความนี้ เราจะไปสำรวจ 5 สิ่งที่พึงระวังในช่วงที่คุณมองหางานใหม่เพื่อความราบรื่นและเพิ่มโอกาสที่จะถูกว่าจ้างให้มากขึ้นนั่นเอง

1. เป้าหมายไม่ชัดเจน

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่สำคัญที่สุด คือ แคนดิเดทส่วนใหญ่นั้นเริ่มหางานโดยไม่เข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในอาชีพของตัวเอง ไม่มีการกำหนดบริบทของงาน รวมทั้งอุตสาหกรร หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องการเสียแต่เนิ่น ๆ เรียกได้ว่า จะเป็นงานอะไรก็ได้ บริษัทไหนก็ได้ ขอเพียงแค่ถูกว่าจ้างก็พอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจทำให้เสียเวลาเปล่า เพราะเสี่ยงที่จะได้งานในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม และต้องทนทุกข์ใช้ชีวิตวนลูปเดิม ไม่มีความสุข ลาออก หางานใหม่อยู่อย่างนั้น จงใช้เวลาทำการบ้านเพื่อระบุเป้าหมายให้ชัดเจน อยากได้งานแบบไหน อุตสาหกรรมที่สนใจเป็นอะไร และบริษัทที่จะตอบโจทย์สอดคล้องกับค่านิยมอันนำไปสู่การตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่ออกไปนั่นเอง

2. พึ่งเว็บไซต์หางานเพียงอย่างเดียว

จริงอยู่ที่ว่าเว็บไซต์ประกาศรับสมัครงานนั้นช่วยให้คนได้งานเป็นลำดับต้นๆ แต่การพึ่งพาช่องทางเดียวก็สามารถจำกัดโอกาสที่จะได้งานได้เหมือนกัน เนื่องจากผลการสำรวจพบว่า ยังมีงานอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยถูกโพสต์รับสมัครทางออนไลน์เลย นั่นหมายความว่าคอนเนคชั่นกลับมามีบทบาทสำคัญแทน ดังนั้น จงอย่าดูถูกพลังของการสร้างเครือข่ายในช่องทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์สัมมนาต่างๆ รวมทั้งการเชื่อมต่อกับผู้คนบนแพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn ไปจนถึงการเข้าร่วมกลุ่มหางานใน Facebook ยิ่งรู้จักคนมาก ยิ่งมีโอกาสที่จะงานจากเครือข่ายเหล่านี้มาก เช่น คุณอาจได้งานจากการโพสต์ประวัติงานของตัวเองในช่องทางดังกล่าว เป็นต้น

3. หว่านเรซูเม่ด้วยรูปแบบเดิมๆ

ลืมแนวคิดแบบ One size fits all ไปได้เลย เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เรซูเม่ที่จัดทำขึ้นมานั้น ไม่สามารถใช้ได้กับตำแหน่งงานทุกตำแหน่งหรือทุกบริษัท เนื่องจากว่าเรซูเม่ที่ดีนั้น ไม่ใช่การให้ข้อมูลแบบกว้างๆ แต่จำต้องมีการปรับแต่งข้อมูลและรูปแบบการนำเสนอให้มีความสอดคล้องกับตำแหน่งงานและองค์กรนั้นๆ โดยเน้นทักษะและดึงเอาประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องตรงกับลักษณะงานให้มากที่สุด และต้องไม่ลืมที่จะยึดเอาคำศัพท์ในประกาศรับสมัครงานมาปรับใช้ด้วยเพื่อดึงดูดสายตาของ HR ในเวลาที่พวกเขาอ่านประวัติงานแบบผ่าน ซึ่งช่วยตอกย้ำว่าเรามีในสิ่งที่บริษัทกำลังมองหา  

4. ละเลยการพัฒนาตัวเอง

หากมองในแง่มุมของธุรกิจแล้ว การหางานก็เปรียบเสมือนการขายอย่างหนึ่ง คือ คุณต้องเสนอขายโปรไฟล์ของตัวเองให้นายจ้างเลือก จากแคนดิเดทหลายคนที่สมัครงานในตำแหน่งเดียวกัน พูดให้ชัดเจนก็ คือ บริษัทนั้นๆ ต้องเลือกซื้อโปรไฟล์ที่ดูจะ ‘คุ้มค่า’ ที่สุด นั่นหมายความว่า ถึงเวลาที่คุณต้องมาทบทวนตัวเอง ค้นหาจุดอ่อน แล้วใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาทักษะความสามารถ อาจจะเป็นการลงเรียนหลักสูตรระยะสั้น เวิร์กช็อป งานสัมมนาใดๆ ที่จะแสดงถึงจุดยืนว่าคุณไม่ใช่คนแบบที่จะทำงานไปวันๆ แต่ยังมองถึงอนาคตระยะไกล ไม่ยอมที่จะหยุดอยู่กับที่ และละเลยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จะทำให้คุณเสียเปรียบในตลาดหางานที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้

5. สมัครงานโดยไม่ศึกษาข้อมูล

เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า ‘ไม่เลือกงาน…ไม่ยากจน’ แต่การส่งใบสมัครแบบหว่านแหโดยไม่สนใจว่าตำแหน่งงานที่กด Apply ไปนั้นจะตรงกับสิ่งที่บริษัทต้องการหรือไม่นั้นยิ่งทำให้คุณดูแย่ คุณได้ซีนแล้ว แต่ซีนคุณแย่มาก… เพราะในสายตานายจ้างจะมองว่าคุณสิ้นไร้ไม้ตอก และคงเป็นคนที่บริษัทอื่นๆ คัดทิ้งมา จึงไม่ควรค่าแก่การเรียกมาสัมภาษณ์ ในขณะเดียวกัน หากพวกเขาสนใจในโปรไฟล์ของคุณแล้วอยากคุยต่อ แต่ต้องมาพบว่าแคนดิเดทจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าสมัครงานอะไรไป ตำแหน่งไหน ก็คงจะไม่ปลื้มเป็นแน่ ดังนั้น คุณต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรม ค่านิยม ไปจนถึงความคาดหวังขององค์กรจากประกาศรับสมัครงาน ให้พวกเขารับรู้ว่าคุณทำการบ้านมา และมีความสนใจที่จะทำงานกับพวกเขาจริงๆ

แม้ว่าการหางานดูจะเป็นอะไรที่ยากและซับซ้อน แต่การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดข้างต้นจะสามารถช่วยให้คุณหางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อันนำไปสู่การค้นพบงานที่ใช่ บริษัทที่ชอบ จะได้ไม่ต้องคอยมองหางานใหม่อยู่เรื่อยๆ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการหางานใหม่นะครับ

Facebook
Twitter
LinkedIn

Leave a Reply

เรซูเม่สมัยใหม่ต้องใส่ใจระบบติดตามผู้สมัคร ATS

เรซูเม่สมัยใหม่ต้องใส่ใจระบบติดตามผู้สมัคร ATS

เสียเวลาหลายชั่วโมงกับการเขียนเรซูเม่แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากบริษัทที่สมัครไป? บางทีอาจเป็นเพราะเรซูเม่ไม่ได้เป็นมิตรกับระบบ ATS

Read More »
ลาออกยังไงให้จบแบบสวยๆ

ลาออกยังไงให้จบแบบสวยๆ

จะแจ้งลาออกตอนไหนดีนะ? เริ่มต้นจากตรงไหนก่อน หรือควรทำตัวอย่างไรในช่วงการเปลี่ยนถ่ายงานนี้ให้การออกจากงานนั้นจบลงไปด้วยดี

Read More »