เมื่อใกล้ช่วงสิ้นปี คนหางานส่วนใหญ่มักคิด ว่า บริษัทต่างๆ จะชะลอการจ้างงานลงเนื่องจากพนักงานทะยอยเตรียมพร้อมสู่ “โหมดวันหยุด” กันถ้วนหน้า ซึ่งคุณแอนดรูว์ แม็กแคสคิล ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพของ LinkedIn เน้นย้ำว่าการจ้างงานนั้นเป็นไปตามวัฏจักรแม้เศรษฐกิจโลกจะเกิดความไม่แน่นอนขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เดือนมกราคมจะยังคงเป็นเดือนที่มีอัตราการจ้างงานมากที่สุดอยู่ดี โดยจากสถิติแล้ว เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนั้นการจ้างงานไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับกระบวนการจ้างงานในช่วงเวลานี้มักจะขยายออกไปถึงสองเดือนหรือมากกว่านั้น แต่การเริ่มมองหางานในช่วงสิ้นปีอาจเป็นประโยชน์เอื้อให้คุณมีโอกาสได้งานมากขึ้นในเดือนมกราคม
เช็คลิสต์: คุณเข้าใจว่ามีปัจจัยบางประการที่อาจทำให้กระบวนการจ้างงานช้าลง
⚠️ ผู้มีอำนาจตัดสินใจจ้างงานอาจลาพักร้อนยาว
⚠️ โดยทั่วไปองค์กรต่างๆ จะประเมินงบประมาณและวางแผนด้านบุคลากรอยู่ (จึงชะลอการจ้างงาน)
⚠️ เป็นช่วงที่งานมักจะโหลด เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการสรุปปีงบประมาณ ส่งผลให้ให้ความสำคัญกับกระบวนการจ้างงานน้อยลงไป
การเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้ คือ การทำวันนี้ให้ดีที่สุด! คุณอาจใช้โอกาสนี้ในการเตรียมความพร้อมหางานในฝันเมื่อช่วงวันหยุดยาวสิ้นสุดลง
ประเมินเป้าหมายอาชีพของคุณใหม่
ก่อนที่จะเริ่มมองหางานใหม่ สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องไตร่ตรองถึงค่านิยมและพาสชั่นของตัวเอง อาจเป็นการถามตัวเองดังๆ ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจที่แท้จริงหรือกิจกรรมใดที่เราชอบทำมากที่สุด จงใช้เวลาในการประเมินสถานการณ์และความก้าวหน้าทางอาชีพที่คุณอยากให้เป็น จะช่วยให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับก้าวต่อไป มันอาจจะเป็นความยืดหยุ่น ความมั่นคง เงินเดือน การพัฒนาตัวเอง ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น หรือทักษะใหม่ คุณควรจัดลำดับความสำคัญขององค์ประกอบเหล่านี้เพื่อสร้างแผนที่เป็นรูปธรรมให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสใดๆ เมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงพีคซีซันอีกครั้ง
หาโอกาสติดต่อคนเก่าๆ พร้อมกับการสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ
จริงๆ แล้ว ช่วงเทศกาลถือเป็นโอกาสที่ดีในการติดต่อกับคนที่คุณรู้จักรวมถึงคนใหม่ๆ อีกด้วย ดังนั้น ควรใช้เวลานี้ ถามไถ่เพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าเก่าเพื่ออัพเดทสารทุกข์สุกดิบ สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบในตำแหน่งงานหรือบริษัทปัจจุบัน คุณอาจขอคำแนะนำเรื่องงานไปตรงๆ ก็ได้ว่ากำลังมองหางานใหม่อยู่ สำหรับการสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ นั้น พิจารณาการสานสันพันธ์กับบริษัทจัดหางาน (Recruiter) จะตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานว่างในอุตสาหกรรมได้มากกว่า และนำเสนอโอกาสในการทำงานที่เหมาะสมและหลากหลายให้กับคุณโดยตรง คุณอาจติดต่อพวกเขาผ่านข้อความ LinkedIn ส่วนตัวหรือส่งอีเมลแนบเรซูเม่ก็ได้
อัพเกรดทักษะและความรู้
สำรวจอุตสาหกรรมหรือตำแหน่งงานแบบเฉพาะเจาะจงที่คุณสนใจ เพื่อทำความเข้าใจทักษะและคุณสมบัติที่จำเป็นต้องมีในตำแหน่งนั้น จากนั้น ใช้เวลาพัฒนาทักษะดังกล่าวผ่านการลงเรียนหลักสูตรออนไลน์ เวิร์กช็อปต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆ หรือปรับปรุงความสามารถที่คุณมีอยู่แล้วให้ดีขึ้น วิธีการยกระดับทักษะและการเพิ่มพูนทักษะใหม่นี้ไม่เพียงแต่ทำให้โปรไฟล์ของคุณแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสการงาน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเรซูเม่ของคุณในสายอาชีพที่คุณเลือก ตลอดจนเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จถูกเรียกตัว ว่าจ้างให้ไปทำงานกับบริษัทในฝันได้อีกด้วย
มีความยืดหยุ่นและปรับตัว
การปรับตัวเป็นกุญแจสำคัญสู่โอกาสที่คุณคาดไม่ถึง เพราะตำแหน่งงานที่คุณกำลังมองหาอาจมีอยู่ในอุตสาหกรรมที่คุณมองข้ามไปก็ได้ จงหลีกเลี่ยงการจำกัดตัวเองอยู่แต่เฉพาะตำแหน่งงานหรือแผนกที่ชื่อ ‘คุ้นเคย’ เท่านั้น แต่ต้องเปิดกว้างและเปิดใจกับอุตสาหกรรม บริษัท รวมทั้งชื่อตำแหน่งที่มีชื่อต่างกันแต่มีเนื้องานที่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ในขณะที่บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี สื่อ และการเงินมีแนวโน้มในการเติบโตมากที่สุดในช่วงปลายปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภาคส่วนอื่นๆ อย่างสถาปัตยกรรม อสังหาริมทรัพย์ รัฐบาล การก่อสร้าง ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไม่มีตำแหน่งงานเลย ทั้งที่ความเป็นจริงก็ยังมีตำแหน่งงานว่างเหลือเฟือรองรับผู้สมัครงานทั้งประเทศ
สรุป การหางานในช่วงเดือนสุดท้ายของปีจำต้องใช้ความอดทนและกลยุทธ์ แม้ช่วงนี้ตำแหน่งงานว่างอาจจะดูน้อยลงไปบ้าง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างมากในการเตรียมตัวและใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สำหรับโอกาสในอนาคตอันใกล้ ด้วยการเปิดกว้างมองหางานอยู่เสมอและคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจและตลาดงาน คุณก็สามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับความสำเร็จเมื่อการจ้างงานกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา : FoxBusiness, Forbes, Viaduct